มิตซูบิชิ นับเป็นยักษ์หลับในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย ที่ค่อย ๆ ขยับตัวตื่นกลับมาทวงบัลลงค์ความยิ่งใหญ่ ทั้งในด้านยอดขายและการยอมรับจากกลุ่มผู้บริโภคอีกครั้ง โดยการเปลี่ยนแปลงเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้นนับตั้งแต่ นายโมริคาซุ ชกกิ เข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา
การค่อย ๆ จัดแจงแต่งตัวให้กับมิตซูบิชิด้วยภาพลักษณ์ใหม่ทั้งหมด ไล่เรียงตั้งแต่การดึงความมั่นใจของผู้บริโภคให้ลับคืนมา ด้วยการปรับปรุงงานบริการหลังการขายของผู้แทนจำหน่ายมิตซูบิชิทั่วประเทศ การปรับปรุงโปรดักซ์ให้เป็นที่ตอบรับความต้องการ รวมถึงเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ และ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ล้วนเป็นสิ่งที่ถูกวางไว้เพื่อทวงคืนอดีตที่หายไปทั้งสิ้น
ล่าสุด เพิ่งจะมีการเดินหน้าปรับภาพลักษณ์ใหม่ของโชว์รูมและศูนย์บริการ เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์แบรนด์ระดับโลก “Drive your Ambition” ยกระดับและสร้างประสบการณ์แก่ลูกค้าผ่านบรรยากาศภายในโชว์รูม เป้าสำคัญคือการส่งเสริมภาพลักษณ์อันแข็งแกร่งของแบรนด์อีกด้วย
นายโมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มิตซูบิชิยังคงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการให้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของโชว์รูมและศูนย์บริการทั้งภายนอกและภายใน เพื่อเน้นย้ำถึงความเป็น มิตซูบิชิ ทั้งด้านภาพลักษณ์และสัมผัสพร้อมยกระดับคุณภาพด้านบริการของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
“แผนงานการปรับภาพลักษณ์ใหม่โชว์รูม ในปีงบประมาณ 2561 จะเดินหน้าปรับปรุงโชว์รูมให้ได้ทั้งหมด 40 แห่ง และตั้งเป้าจะปรับปรุงดชว์รูมให้ครบทั้ง 220 แห่งทั่วประเทศภายในระยะเวลา 3 ปี โดยปัจจุบันได้ดำเนินการปรับภาพลักษณ์ใหม่แล้วเสร็จจำนวน 9 แห่ง”
นอกจากการปรับแก้กันตั้งแต่รากฐาน การส่งสินค้าใหม่ออกมากระตุ้นความต้องการของลูกค้าก็ดูจะจำเป็นมาก เพราะมิตซูบิชิเป็นอีกหนึ่งบริษัทรถยนต์ที่มีสินค้าแทบจะครบทุกเซ็กเมนท์เพื่อตบโจทย์ความต้องการ ในปีนี้จึงเห็นได้ว่า มิตซูบิชิ ทยอยแนะนำสินค้าไล่เรียงมาตั้งแต่ มิตซูบิชิ แอททราจ มิตซูบิชิ มิราจ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปรับโฉมใหม่และรุ่นพิเศษ รวมถึงรถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ล่าสุด มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ และกระบะพันธุ์แกร่งอย่าง มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ที่เพิ่งจะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยเมื่อเดือนที่ผ่านมา
ซึ่งจากกระแสความร้อนแรงของ 2 ของโปรดักซ์ใหม่ ดูจะสร้างราศีให้กับค่ายตราเพชรมหาศาล หากไปส่องกันที่ตัวเลขยอดจองของแต่ละรุ่น ล้วนแล้วแต่ไม่ธรรมดา อย่างมิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ มีตัวเลขยอดจองล่าสุดนับตั้งแต่เปิดตัวอยู่ที่ 4,000 คัน
จากคำสัมภาษณ์ที่มีต่อสื่อมวลชนของนายชกกิ จะพบว่า มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ คือ สินค้าแห่งความหวังที่มิตซูบิชิ เชื่อมั่นว่าจะส่งผลต่อการเติบโตของมิตซูบิชิทั้งในปีนี้และปีหน้า เพราะเป็นหนึ่งในสินค้า ที่ถูกพัฒนาใหม่ทั้งสมรรถนะและรูปลักษณ์ ภายใต้แนวคิด “แกร่งลุยทุกอุปสรรค”
ด้วยการเชิดชูระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super-Select 4WD มาพร้อมเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็มเป็นการวางระดับสินค้าใหม่ ให้ ไทรทัน ก้าวขึ้นมาเป็นกระบะที่เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะและสุดยอดเทคโนโลยี ให้สามารถรองรับทุกความต้องการในตลาดได้
“ไทรทัน ใหม่ ครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย และระบบอำนวยความสะดวกสบาย ซึ่งหลังการเปิดตัว ได้รับความสนใจจากลูกค้าทั่วประเทศจนสามารถทำให้มียอดจองขยับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นความสำเร็จที่เกินความคาดหมาย และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะมียอดจองไม่ต่ำกว่า 10,000 คัน” นายชกกิ กล่าว
สำหรับ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอสโอเวอร์ที่กำลังร้อนแรงมากในตลาดรถอเนกประสงค์เวลานี้ มียอดจองเข้ามาแล้วมากกว่า 8,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมียอดสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้และได้เริ่มทยอยส่งมอบไปแล้วมากกว่า 3,000 คัน โดยทำให้ล่าสุดมียอดค้างส่งมอบเกือบ 4,000 คัน ซึ่งสถานการณ์การส่งมอบรถน่าจะดีขึ้น เพราะแผนการเพิ่มโควต้าการนำเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
นายชกกิ ยังตอบคำถามถึงข้อกังวลเรื่องกำลังการผลิตของโรงงานแหลมฉบัง โดยเชื่อมั่นว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะปัจจุบันมิตซูบิชิมีกำลังผลิตรถยนต์จาก 3 โรงงานรวมกันอยู่ที่ 420,000 คันต่อปี ซึ่งโรงงานที่ 2 ซึ่งรับหน้าที่ผลิตรถกระบะเราเดินหน้าเต็มกำลังการผลิต เพราะไทรทันใหม่ ที่เปิดตัวออกมามีการตอบรับที่ดี ซึ่งกำลังการผลิตรถยนต์มิตซูบิชิค่อนข้างแน่น โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะมีการปรับไลน์ผลิตหรือลงทุนเพิ่มเติมเครื่องจักรเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตไทรทัน”
สำหรับยอดขายรวมในปีนี้ มิตซูบิชิคาดว่าจะมียอดขายรวมที่ 85,000 คัน มีส่วนแบ่งทางการตลาด 8% โดยในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมามิตซูบิชิมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ทำได้ 8.1-8.2% ส่วนแผนการตลาดในปี 2562 มุ่งหวังจะทำยอดขายรถยนต์ในประเทศให้ได้ 100,000 คัน หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 10% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี หลังสิ้นสุดโครงการรถยนต์คันแรกที่เคยทำได้สูงถึง 140,000 คัน
“ปีหน้าจะเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับมิตซูบิชิ แม้เราจะมีโปรดักซ์ใหม่ออกมาแนะนำในปีหน้า รวมถึงเศรษฐกิจพื้นฐานจะดีขึ้น การทยอยหมดอายุลงของโครงการรถคันแรก แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงทั้งเรื่องของอัตราดอกเบี้ย ราคาพืชผลตกต่ำ ไปจนถึงสถานการณ์ของเศรษฐกิจในระดับโลก”
สุดท้าย มร.โมริคาซุ ชกกิ กล่าวตบท้ายว่า “ขอบคุณคนไทยที่ไว้ใจมิตซูบิชิ โดยเฉพาะกับการให้การยอมรับ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ จนทำให้หลังการเปิดตัวมียอดจองเกินความคาดหมาย ไทรทัน ใหม่ ได้รับการพัฒนาต่อยอดทั้งด้านของสมรรถนะและความแข็งแกร่งที่ไว้ใจได้ รวมถึงความสะดวกสบายในการขับขี่ ซึ่งเป็นจุดเด่นของกระบะมิตซูบิชิ มาตลอดระยะเวลา 40 ปี ซึ่งผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ หรือ แอล 200 นี้ จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม”