แกร็บ ผู้นำซูเปอร์แอปในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ตอกย้ำความมุ่งมั่น
และวิสัยทัศน์ในการสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงินในงานบางกอก ฟินเทค แฟร์ 2019 โดยการสนับสนุนผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร (unbanked)และกลุ่มผู้ที่เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบธนาคารได้ยาก (underbanked) จำนวนหลายล้านคน ให้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินผ่านทางแพลตฟอร์มซูเปอร์แอปที่ลูกค้าสามารถใช้ได้ทุกวัน
ทั้งนี้ จากผลสำรวจผู้บริโภค Global Consumer Insights ของ PwC ประจำปี2562 พบว่าอัตราผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือของไทยระหว่างปี 2561 – 2562 เติบโตขึ้น 19เปอร์เซ็นต์ โดยล่าสุดอยู่ที่ 67 เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นถึงโอกาสของไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมไร้เงินสดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รวมถึงบริการทางการเงินดิจิทัลอื่นๆ สอดคล้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ประเทศไทย 4.0
นายแอนโทนี่ ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บ กล่าวว่า “เราเชื่อว่า ฟินเทคจะเอื้อประโยชน์แก่สังคมและเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ด้วยการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์และภาครัฐ แกร็บหวังที่จะขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยการทำให้กลุ่มคนที่ไม่มีบัญชีธนาคารจำนวนหลายล้านคนสามารถเข้าถึงการชำระเงินดิจิทัลและบริการทางการเงินอื่นๆ ได้ เพื่อเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจรวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน”
ตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ได้มีส่วนช่วยในการเปิดบัญชีธนาคารกว่า 1 ล้านบัญชี และขึ้นแท่นเป็นดิจิทัลวอลเล็ตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร และผู้ที่เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบธนาคารได้ยากให้สามารถเข้าถึงดิจิทัลวอลเล็ตที่ปลอดภัยและง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงบริการทางการเงินอื่นๆ โดยปัจจุบัน แกร็บเป็นบริษัทเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-money licenses) ใน 6 ประเทศหลักของอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย
ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แกร็บ ประเทศไทย ได้ประกาศความร่วมมือทางกลยุทธ์กับธนาคารกสิกรไทยในการพัฒนานวัตกรรมร่วมกัน เพื่อร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ในการใช้บริการของผู้บริโภค รวมถึงสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศของแกร็บ โดยใช้ศักยภาพความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแบงกิ้งของธนาคาร ทำให้แกร็บ สามารถเปิดตัวบริการทางการเงินอันหลากหลายภายใต้พันธมิตรนี้ ได้แก่
- สินเชื่อส่วนบุคคล – แกร็บเปิดให้บริการแก่พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ โดยไม่ต้องมีหลักประกัน ซึ่งผู้ขับขี่สามารถใช้เงินสินเชื่อส่วนบุคคลในการบำรุงรักษารถ ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาของบุตร ค่าเช่า และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
- สินเชื่อเช่าซื้อ – แกร็บได้ร่วมมือกับลีสซิ่งกสิกรไทยและเพิ่งเปิดให้บริการในสัปดาห์นี้ เพื่อสนับสนุนสินเชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่แก่พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่แกร็บในการให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
- สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี –สำหรับพาร์ทเนอร์ร้านค้าของแกร็บโดยไม่ต้องมีหลักประกันและดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยให้พาร์ทเนอร์ร้านค้าสามารถเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว และยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายในส่วนของลูกค้า และสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจซึ่งรวมถึงการสร้างงานด้วย
นอกจากนี้ แกร็บยังมอบความสะดวกสบายอื่นๆ นอกเหนือจากบริการทางการเงิน เช่น การเปิดบัญชีถึงที่ การให้บริการธุรกรรมโอนเงินเข้าออกผ่านแอปสำหรับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และร้านค้า เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นในการทำงาน นอกจากนี้ แกร็บยังช่วยให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่สามารถซื้อโทรศัพท์มือถือได้โดยไม่คิดดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยในการหารายได้เพื่อครอบครัวได้ดียิ่งขึ้น
“ปัจจุบันมีผู้ใช้แกร็บมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการที่แพลตฟอร์มของแกร็บสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง เราทำงานอย่างหนักเพื่อนำบริการด้านการเงินเข้ามาขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงินของประเทศ สำหรับผู้บริโภค เรามีระบบเติมเงินแกร็บเพย์และแกร็บรีวอร์ดส์ ที่ผู้ใช้บริการสามารถจ่ายค่าบริการทั้งหมดของแกร็บได้ ไม่ว่าจะเป็นบริการรถรับส่ง บริการส่งอาหาร หรือบริการส่งพัสดุ พร้อมสะสมแต้มรีวอร์ดส์ได้ทันทีบนแอปเดียว ในส่วนของผู้ขับขี่นั้น เราได้นำเสนอทางเลือกทางการเงินมากมาย เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งในด้านสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อเช่าซื้อ ผ่านความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย รวมไปถึงเปิดโอกาสให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ผ่อนชำระแบบไม่คิดดอกเบี้ย สำหรับพาร์ทเนอร์ร้านค้าต่างๆ เราก็มีสินเชื่อเอสเอ็มอีเพื่อช่วยให้พาร์ทเนอร์ของเราสามารถขยายกิจการและเติบโตได้เร็วขึ้นอีกด้วย” นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าว