Toyota Hilux Revo GR Sport (Hi-Floor) 4×4

0

สำหรับสาวก Revo ถ้าคุณคิดว่าเวอร์ชั่น Rocco มากับภาพลักษณ์จุดยืนสาย Off-Road มากเกินไป แถมถ้าหากอยากได้ความสปอร์ตก็ดูเหมือน Z-Edition จะเสิร์ฟมาให้น้อยไปนิด จนทำให้รู้สึกว่าอาจไม่ถูก “จริต” ผู้ที่ต้องการจุดเด่นทั้ง 2 สิ่งในรถคันเดียวกัน… แล้วนั่นก็อาจเป็นเหตุให้เกิดผลกระเทือนไปถึงยอดจำหน่ายที่ไต่ไม่ถึง “เป้า” เนื่องจากเหล่าคู่แข่งขันในตลาดต่างก็เข็น กระบะสายพันธ์สปอร์ตแบบพิเศษออกมาครองพื้นที่ไปแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Ranger FX4 Max, Navara Pro-4X และ Pro -2X หรือแม้กระทั่งการอัพเกรดของ X-Series ก็ตาม

ฉะนั้นจึงไมมีเหตุผลใดๆ เลยที่ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จะรอช้าในการส่งโปรดักส์ใหม่ในชื่อ Toyota Hilux Revo GR Sport ออกมาเปิดศึก เพื่อจับกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการรถกระบะพร้อมกับคุณสมบัติการตอบโจทย์รอบด้าน ทั้งนามธรรม, รูปธรรม และการพัฒนาด้านวิศวกรรมที่ก้าวไปอีกขั้น

ซึ่งเจ้า Toyota Hilux Revo GR Sport เองนั้นมากับตัวเลือก 2 รุ่นย่อยหลักๆ บนพื้นฐานของแรงบันดาลใจที่สร้างสไตล์ต่างกัน คือ เวอร์ชั่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (Lo-Floor) ในอารมณ์ของรถแข่งรายการ Super GT (Grand Touring) แล้วก็พระเอกของเรา เวอร์ชั่นยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ (Hi-Floor) ที่สร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากรถแข่งรายการ World Rally Championship (WRC)

ในมุมของ “นามธรรม” แน่นอนว่า “ไทยรู้จัก ทั่วโลกรู้จัก” เพราะท้ายชื่อ Toyota Hilux Revo คือ นามสกุล GR Sport ที่ส่งต่อมาถึงทายาทลำดับที่ 4 ของตระกูล ตั้งแต่ Corolla GR Sport ต่อเนื่องด้วยโมเดลระดับตำนานอย่าง GR Supra และ Hot Hatch พลังสูงอย่าง GR Yaris … แต่ลำพังเพียงแค่ “ชื่อสกุล” ที่ต่อท้าย ก็ยังให้น้ำหนักไม่มากพอที่จะแสดงความชัดเจน

ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงทาง “รูปธรรม” จึงถูกปูพรมลงบนเรือนร่างของ Toyota Hilux Revo แบบ 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ … ประกอบด้วย ชุดกระจังหน้าที่ถอดโลโก้ ออก เพื่อแทนที่ด้วยตัวอักษร TOYOTA รับกับชุดกันชนที่เก็บรายละเอียดการตกแต่งใหม่ ต่อเนื่องไปยังมุมมองด้านข้างกับความดุดันที่จัดมาให้ทั้งจาก กระจกมองข้างสีดํา ซ่อนลูกเล่นระบบไฟ Welcome Light ทั้งยังลงตัวกับซุ้มล้ออารมณ์ใหม่ที่มีขนาดใหญ่ ลงตัวกับล้ออัลลอยด์ GR Sport ดีไซน์ใหม่ขนาด 18 นิ้ว ที่มีความโดดเด่นจากด้านในเป็นชุดคาลิปเปอร์สีแดง ประทับตราสัญลักษณ์ GR

ส่วนมุมมองด้านหลังบอกตรงๆ ว่าเป็นอะไรที่มีความคล้ายกับ Rocco ไม่น้อยทีเดียว เช่น สปอร์ตบาร์โทนสีดำ พร้อมไฟสองสว่าง LED และพื้นปูกระบะ เสริมความแกร่งด้วยชุดกันชนหลังโทนสีดำ และความแตกต่างด้านอารมณ์สปอร์ตจากเสาอากาศที่เปลี่ยนมาเป็นแบบ Shark Fin ก่อนปิดท้ายด้วยการเติมเต็มฐานะของสมาชิกตระกูลอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยอัตลักษณ์ความเป็น GR Sport ในจุดสำคัญต่างๆ เช่น สติ๊กเกอร์ด้านข้าง และท้ายกระบะ พร้อมตราโลโก้ GR ที่มีให้เห็นทั้งบนกระจังหน้า, ด้านข้าง และประตูท้าย ไปจนถึงบนกุญแจรีโมท Smart key ดีไซน์พิเศษ

 

จากภายนอกสู่ห้องโดยสารที่มากด้วยการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ซึ่งเพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากการรายล้อมด้วยโทนสีดำเป็นหลัก ผสมผสานด้วยรายละเอียดการตัดเย็บ เช่น “ด้ายแดง” และการตกแต่งด้วยสีเทาเข้ม Smoke Silver ไปจนถึงตราประทับสัญลักษณ์ GR

นอกจากนี้ก็มีการอัพเกรดวัสดุใหม่ เช่น เบาะนั่งหุ้มหนัง Suede แบบเจาะรู และหนังสังเคราะห์ ที่มากับโลโก้ GR บนพนักพิงศรีษะ ตามด้วยงานดีไซน์สปอร์ตของชุดพวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่น พร้อมโลโก้ GR, ปุ่มสตาร์ทอัจฉริยะ Push start โลโก้ GR, หน้าจอ TFT ที่แสดงภาพสัญลักษณ์ GR ตลอดจนแป้นคันเร่ง และเบรก ที่จัดสรรวัสดุโลหะในงานออกแบบสไตล์สปอร์ตมาให้อีกด้วย

และกับค่าตัวที่ประกาศไว้ราวๆ 1.3 ล้านบาท ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงเพียงแค่รูปธรรม คงไม่มีอำนาจพอที่จะ “ซื้อใจ” สาวกชาวไทยได้แน่นอน เพราะงั้นเจ้า Toyota Hilux Revo GR Sport (Hi-Floor) 4×4 จึงได้มาถูกจัดการยกระดับขีดความสามารถ ภายใต้แรงบันดาลใจที่มาจากรถแข่ง WRC กับจุดเด่นหลักๆ ในส่วนของระบบช่วงล่างด้านหลังใหม่ ที่เปลี่ยนไปใช้ โช๊คอัพโมโนทูบ (Monotube Shock Absorber) ทำงานร่วมกับแหนบซ้อน พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ขณะที่ด้านหน้านั้นยังคงมากับพื้นฐานอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone Suspension)

ขุมพลังแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเป็นเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล บล็อกใหญ่สุดในค่ายกับพิกัด 2.8 ลิตร เสริมประสิทธิภาพด้วยระบบอัดอากาศแบบแปรผัน VN Turbo และ Intercooler ซึ่งผลิตกำลังสูงสุดที่ 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที

รับหน้าที่ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด โดยมีอรรถรสของเกียร์ธรรมดาให้สัมผัสผ่านระบบ Sequential Shift และ Paddle Shift หลังพวงมาลัย ตลอดจนขีดความสามารถของระบบขับเคลื่อนที่หลากหลายทั้งแบบ 2 ล้อความเร็วสูง (2H), แบบ 4 ล้อความเร็วสูง (4H) และแบบ 4 ล้อความเร็วต่ำ (4L) ตลอดจนการติดตั้งเฟืองท้ายแบบ Differential Lock มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

แล้วถ้าทั้งหมดนั้นยังทำให้คุณรู้สึกไม่ “อิน” อีก ก็ลองมาดูเรื่องของระบบความปลอดภัยกันบ้าง เพราะนอกจากฟังค์ชั่นมาตรฐานที่คุ้นเคยแล้ว ยังมีการเพิ่มเติมตัวช่วยใหม่เข้ามาเสริมทัพความคุ้มค่าเข้าไปอีกขั้น ประกอบด้วย ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System), ระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert), ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control), กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor), ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) แล้วก็ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

เรียกได้ว่าแค่รายนามความเปลี่ยนแปลงสู่ฐานะ GR Sport ก็ถือว่าเป็นอะไรที่ “ยั่ว” ความอยากได้ดี และจะดีมากยิ่งขึ้นเมื่อมีโอกาสได้สัมผัส ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก, อารมณ์ของภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “สมรรถนะ” ที่แม้จะละเว้นการอัพเกรดขุมพลัง … แต่เชื่อเถอะว่าแค่การเปลี่ยน “โช๊คอัพหลัง” ก็มากพอจะ “เปลี่ยน” บุคลิกจากรถกระบะให้มีความใกล้เคียงกับความเป็นรถยนต์นั่งมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ชนิดที่ว่าผู้โดยสารด้านหลังจะเอ่ยปากบอกคุณเองอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสียเวลามานั่งจับอาการแม้แต่น้อย

และเมื่อประกอบเข้าต้นทุนความยอดเยี่ยมทั้งจากพื้นฐานของขุมพลัง และความเฉียบคมของพวงมาลัย ซึ่งยังคงทำหน้าที่ตอบสนองได้ดีเยี่ยมในทุกอิริยาบถ ทำให้การปรับเปลี่ยนระบบช่วงล่างครั้งนี้ คือ “จิ๊กซอว์” ชิ้นสุดท้ายที่จะมาเติมเต็มคุณภาพในการขับขี่ให้สมบูรณ์แบบ และทำให้ภาพรวมของการขับToyota Hilux Revo GR Sport (Hi-Floor) 4×4 “ดีขึ้น, สบายขึ้น”

แถมยังมอบความอุ่นใจในทุกๆ การขับขี่ได้ความสามารถในการขับเคลื่อน ที่เพิ่มพูนเสถียรภาพจากการขับเคลื่อน 2 ล้อความเร็วสูง (2H) มาเป็นแบบ 4 ล้อความเร็วสูง (4H) ได้ง่ายๆ ทั้งยังรวมไปถึงระบบความปลอดภัยที่ของเดิมว่าแน่นหนาแล้ว ในเวอร์ชั่น GR Sport นี้ก็ยังเพิ่มเติมเข้ามาให้รัดกุมมากขึ้น ในแบบที่หากจะใช้สโลแกนติดตัวว่า “ทุกชีวิตปลอดภัยใน Revo GR Sport” ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ผิดเพี้ยนเท่าไหร่นัก

ฉะนั้นถ้าอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แล้ว ลองมาไล่ดูดีกว่าว่า รถกระบะอย่าง Toyota Hilux Revo GR Sport (Hi-Floor) 4×4 กับค่าตัวที่ราวๆ 1.3 ล้านบาท “ให้อะไรได้บ้าง” … เริ่มจากสิ่งแรก “ภาพลักษณ์” ที่เปลี่ยนไป เพราะได้มาซึ่งความสปอร์ตที่เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้นจากฐานะทายาทแห่งสายพันธ์ GR Sport

ส่วนต่อมาก็คือ ความเป็นรถ 4 ประตู รองรับการโดยสารได้อย่างสะดวกสบาย แล้วก็ไม่ใช่เพียงแค่ลักษณะทางกายภาพเท่านั้น หากแต่รวมถึงอารมณ์ของการขับขี่ ที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ไม่ต่างจาก “รถอเนกประสงค์” แล้วก็ยังแถมมาด้วยสถานะของการเป็น “รถกระบะ” ซึ่งแน่ละมันสามารถ “บรรทุกหนัก” ได้

สุดท้ายก็คือความปลอดภัยที่นอกจากฟังค์ชั่นต่างๆ จะถูกเพิ่มเติมเข้ามาให้แล้ว “ระบบขับเคลื่อน” ยังเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น เพราะหาก 2 ล้อ (2H) ยังสร้างความอุ่นใจได้ไม่มากพอ การขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ก็ยังมีพร้อมให้ใช้งาน และมากไปกว่านั้นกับเส้นทางที่หนักหนา หรือเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สาย Adventure เล็กๆ ในวันพักผ่อน โหมดขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อความเร็วต่ำ (4L) ก็ยังคงเอื้ออำนวยให้การไปกางเต็นท์พักผ่อนในสุดสัปดาห์เป็นเรื่องง่ายอีกด้วย

แล้วก็ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้เองที่ทำให้คำว่า “คุ้มค่า” มีความ “เด่นชัด” ขึ้นมาในความรู้สึกของเรา จนเชื่อว่าถ้าใครสักคนต้องการรถกระบะที่เป็นได้มากกว่าแค่รถกระบะ …Toyota Hilux Revo GR Sport (Hi-Floor) 4×4 น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ … แต่อย่างที่บอกล่ะครับว่า “นั่นคือในความคิดของเรา” เพราะงั้นคุณไม่ต้องเชื่อก็ได้ แต่ขอเตือนไว้นิดว่า ถ้าไม่อยากพลาด “ของดี” จนมาต้องมานั่งเสียดายทีหลัง เราแนะนำว่าไปโชว์รูมใกล้บ้าน เพื่อสัมผัส และลองขับดูก่อน เพราะหากถึงจุดนั้นแล้ว เราคิดว่าคุณจะพบ “คำตอบ” ได้เองแน่นอน

Comments are closed.