แซนดี้ คว้าแชมป์อันดับที่ 1 ประเภทนักขับ ในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน “Thailand Super Series
2019” ด้วยคะแนนรวม 126 คะแนน ซึ่งก่อนการแข่งขันสนามสุดท้าย แซนดี้ มีคะแนนรวมอยู่ในอันดับที่ 2 โดยมีคะแนนห่างจากอันดับที่ 1 จำนวน 19 คะแนน
การแข่งขันนัดปิดฤดูกาล เกิดขึ้น ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค นักขับไทยลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ สังกัดทีมบี-ควิก เรซซิ่ง ใช้รถออดี้ อาร์ 8 จีที 3 อีโว หมายเลข 2 จับคู่กับทีมเมท ชาวเอสโตเนีย มาร์ติน รัมป์ (Martin Rump) แซนดี้ได้ฝึกซ้อมและการจัดอันดับ(รอบควอลิฟาย) ในวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 62 และทำการแข่งขันจริงเรสที่ 1 ในบ่ายวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 62 และ ทำการแข่งขันจริงเรสที่ 2 ในบ่ายวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 62
ในช่วงเย็นของวันศุกร์ ซึ่งเป็นฝึกซ้อมและการจัดอันดับในการออกสตาร์ทในวันแข่งขันจริง (รอบการควอลิฟาย) ในควอลิฟายแรก แซนดี้ในรถออดี้หมายเลข 2 สามารถกดคันเร่งทำเวลาได้ดีที่สุด คว้าโพลโพซิชั่นได้สำเร็จ ทำให้แซนดี้ได้ออกจากกริดสตาร์ทในการแข่งขันจริงเรสที่ 1 (วันเสาร์) เป็นคันแรก ด้านทีมเมท มาร์ติน รัมป์ ลงสนามรอบควอลิฟายที่ 2 ทำเวลาได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน เกือบได้ตำแหน่งโพลโพซิชั่น แต่น่าเสียดาย มาร์ตินโดนปรับเวลาเรื่องแทร็กลิมิต ทำให้หล่นมาอยู่ในอันดับที่ 2 มาร์ตินจึงต้องออกจากกริดสตาร์ทที่ 2 ในการแข่งขันจริงเรสที่ 2 (วันอาทิตย์)
ในบ่ายวันเสาร์ แซนดี้ลงแข่งขันในเรสที่ 1 เป็นคนแรก โดยออกจากตำแหน่งโพลโพซิชั่น (คันแรก) แซนดี้เร่งทำช่วงเวลาทิ้งห่างคู่แข่งที่ตามอยู่ด้านหลังได้ดีเยี่ยม ทำให้ส่งมือต่อให้ทีมเมทชาวเอสโตเนีย มาร์ติน รัมป์ อย่างราบรื่น มาร์ตินกดคันเร่งต่ออย่างเต็มที่ จนสามารถคว้าแชมป์ประจำเรสที่ 1 ได้สำเร็จ แซนดี้ กล่าวว่า “เป็นเรสที่เหลือเชื่อมากและเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของทีมในการเตรียมรถแข่งให้ผมได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ผมมีความสุขที่ได้ขับในเรสนี้”
ในบ่ายวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นเรสสุดท้ายแห่งปีแล้วที่แซนดี้จะได้แข่งในฤดูกาลนี้ การแข่งขันเรสที่ 2 มาร์ติน รัมป์ รับหน้าที่ลงแข่งขันเป็นคนแรก โดยออกจากกริดสตาร์ทที่ 2 มาร์ตินเร่งสปีดเต็มที่เพื่อแซง เฟอร์รารี่ 488 หมายเลข 34 ให้ได้ เมื่อช่วงพิทสตอปเกิดขึ้น แซนดี้รับช่วงต่อของการแข่งขันช่วงท้าย โดยแซนดี้โดนบวกเวลาให้อยู่ในพิทต่อเป็นเวลา 154 วินาที เนื่องจากการได้แชมป์เรสที่ 1 เมื่อวานนี้ (Success penalty) การเป็นนักขับระดับ Silver ของทั้งแซนดี้และมาร์ติน และเมื่อ พิทวินโดวปิดลง กลับมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ทำให้รถเซฟตี้คาร์ออกมานำขบวนรถแข่งทุกคัน ส่งผลให้รถทุกคันมีระยะห่างที่ใกล้กันมากขึ้น ขณะนั้นแซนดี้อยู่ในอับดับที่ 4 แซนดี้ต้องการอีกเพียง 5 คะแนนเท่านั้นที่จะได้แชมป์ประจำปี แซนดี้จึงรีบเร่งฝีเท้าแซงผ่านคู่แข่งอันดับ 1-3 ให้สำเร็จ ในที่สุด แซนดี้ก็ทำสำเร็จในช่วง 2 โค้งสุดท้าย แต่น่าเสียดายที่สจ๊วตปรับโทษส่งผลให้แซนดี้ต้องขึ้นโพเดียมอันดับ 2 ของเรสที่ 2 แต่อย่างไรก็ตาม คะแนนสะสมที่มีรวมกับคะแนนทั้ง 2 เรส ของสนามสุดท้ายนี้ ยังคงทำให้แซนดี้สามารถก้าวขึ้นแท่นแชมป์ประจำปีประเภทนักขับได้สำเร็จ
แซนดี้ พูดหลังจากจบการแข่งขัน กล่าวว่า “ผมยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมจะคว้าแชมป์ปีนี้มาครองได้สำเร็จ ผมขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมเป็นส่วนของเส้นทางความสำเร็จในปีนี้ ผมแทบจะรอไม่ไหวแล้วกับสิ่งที่รออยู่ในวันข้างหน้า แต่ตอนนี้ขอมีความสุขกับแชมป์นี้ก่อน ” แซนดี้พูดหลังจากจบการแข่งขัน
นอกจากนี้ ทีมบี-ควิก เรซซิ่ง ยังคว้าแชมป์ประเภททีม ประจำฤดูกาล และ เฮงก์ กิกส์ และแดเนียล บิลสกี เพื่อนร่วมทีม หมายเลข 26 คว้าแชมป์นักขับรุ่น AM อีกด้วย
แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค นักแข่งไทย ภายใต้การสนับสนุนจากเดอะพิซซ่าคอมปะนี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การบินไทย พูม่าไทยแลนด์ ดาคอน เทรดดิ้ง ไทยวิงส์ทราเวลเอเจนท์ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย และการกีฬาแห่งประเทศไทย