Audi RS3 LMS Racecar ยกระดับเต็มพิกัดเพื่อการแข่ง

0

Audi Sport เตรียมลุยงานมอเตอร์สปอร์ตฤดูกาลใหม่ ด้วยการเปิดตัว Audi RS3 LMS Racecar เจนเนอเรชั่นที่ 2  ซึ่งมาพร้อมกับยกระดับเต็มพิกัดสำหรับการแข่งขัน TCR racing ไปจนถึงการแข่งขันแบบ Endurance ทั้งในระดับภูมิภาค และระดับโลก

โดย Audi RS3 LMS Racecar  นั้นถูกสร้างขึ้นจากพื้นฐานของ Audi RS3 เจนเนอรชั่นล่าสุด มาต่อยอดการอัพเกรดสู่ความเป็นรถสนาม ตั้งแต่การลดน้ำหนัก และการปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์ ตลอดจนการระบายความร้อน ด้วยการติดตั้งชุดแอโร่พาร์ทรอบคัน ซึ่งทั้งหมดนั้นเลือกใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เข้ามาเป็นส่วนประกอบ

ส่วนไฮไลต์สำคัญต้องยกให้กับขุมพลังสุดเร้าใจ ที่เกิดขึ้นจากเครื่องยนต์ 4 สูบพิกัด 2.0 ลิตร รหัส EA888 ที่เรี่ยวแรงสูงถึง 340 แรงม้า ภายใต้อัพเกรดชิ้นส่วนต่างๆ เช่น เสื้อสูบ, ฝาสูบ, เพลาข้อเหวี่ยง, รางวาล์ว, ระบบไอดี, ระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิง และระบบอัดอากาศ Turbocharger ลูกใหม่ ตลอดจนระบบระบายความร้อนที่ติดตั้งหม้อน้ำเอาไว้ถึง 2 ตำแหน่ง

ด้านระบบส่งกำลังจะมากับเกียร์แบบ Sequential 6 สปีด พร้อม Paddle Shift และคลัทช์คู่แบบใหม่ที่มีน้ำหนักเบากว่าเดิม 800  กรัม ทั้งยังมีการปรับปรุงระบบเฟืองท้ายแบบ Multi-Disc Differential ใหม่ให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถถอดซ่อมบำรุงได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

นอกจากนี้ในส่วนของช่วงล่าง ซึ่งใช้พื้นฐานแม็คเฟอร์สันสตรัทในด้านหน้าในการรับการอัพเกรดชุดปีกนกใหม่ให้ถอดเปลี่ยนได้ง่าย โดยสามารถเลือกความกว้างได้ถึง 4 ระดับ ตั้งแต่ 1.2 มม. ไปจนถึงระดับ 10 มม. ทั้งยังออกแบบให้สามารถปรับมุมแคมเบอร์ของล้อหน้าได้ตั้งแต่ 2 องศา ถึง 7 องศา ตามด้วยการเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มเติม เช่น Subframe ซึ่งรวมถึงการเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งเหล็กกันโคลงแบบ Quick-Release เพื่อให้สามารถถอดออกได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีในส่วนของชุดสปริง และโช๊คอัพ ที่สามารถเลือกปรับแต่งได้อีก 9 ระดับในด้านหน้า และ 6 ระดับในด้านหลัง พร้อมด้วยระบบเบรกประสิทธิภาพสูงด้วยการจัดคาลิปเปอร์แบบ 6 Pot ในด้านหน้ามาให้เป็นครั้งแรก

ในเรื่องของความปลอดภัยเรียกได้ว่าจัดชุดใหญ่ตามสไตล์รถแข่ง ประกอบด้วย Roll Cage เต็มลำ, เบาะนั่งแบบ Audi Sport Protection Seat ที่ออกแบบมาสำหรับรายการแข่งขัน TCR โดยเฉพาะ จับคู่กับเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุด, ถังน้ำมันความจุ 100 ลิตร ตามข้อบังคับของ FIA FT3 เช่นเดียวกับถังดับเพิลงในรถ รวมถึงยังเป็นครั้งแรกอีกด้วยที่เปลี่ยนวัสดุกระจกหลังใหม่ไปใช้เป็นโพลีคาร์บอเนต

 

CR.NetCarShow.com

Comments are closed.