Audi RS7 Sportback ยนตรกรรม 5 ประตูสไตล์ Coupe

0

ถ้าหาก Audi RS4 Avant ตัวแรงในคราบยนตรกรรม Wagon มีภาพลักษณ์ที่เรียบร้อยเกินไปล่ะก็ Audi RS7 Sportback ที่ปล่อยออกมาพร้อมๆ กัน ดูจะเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ชื่นชอบยนตรกรรม 5 ประตูสไตล์ Coupe ซึ่งแผนก Audi Sport ลงมือสร้างสรรค์  และพัฒนาไปอีกขั้น สู่เจนเนอเรชั่นที่ 2 ในฐานะยนตรกรรมสรรถนะสูงเต็มรูปแบบ

โดย Audi RS7 Sportback คือ Sportcoupe 5 ที่นั่งเร้าใจตั้งแต่งานออกแบบรูปลักษณ์บนความยาวตัวถังที่ 5,009 มม. ที่เพิ่มความสปอร์ตด้วยมุมมองด้านหน้าที่มีความกว้างของตัวถังเพิ่มขึ้นเป็น 1,950 มม. จากการดีไซน์ของซุ้มล้อให้กว้างขึ้นอีกราวๆ ข้างละ 20 มม. เพื่อให้รับกับล้ออัลลอยด์มาตรฐานขนาด 21 นิ้ว หรือออพชั่นขนาด 22 นิ้ว

ขณะที่รายละเอียดความดุดันนั้นประกอบด้วยชุดกระจังหน้าลวดลายรังผึ้ง ในโทนสีดำแบบ Singleframe สไตล์ RS ไร้กรอบ เช่นเดียวกับในส่วนของช่องดักอากาศซ้าย-ขวา พร้อมเติมความเฉี่ยวด้วยดีไซย์ของชุดไฟหน้าแบบ LED โดยมีออพชั่นเป็นระบบไฟหน้าแบบ HD Matrix LED พร้อมระบบ Audi Laser Light และชุดไฟท้าย LED โทนสีเข้ม พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Dynamic Turn Signal Lights ให้เลือก

ส่วนด้านหลังมีการออกแบบชุดสปอยเลอร์ในสไตล์ Ducktail ให้รับกับชุดไฟท้ายแนวยาว ซึ่งตัวสปอยเลอร์นั้นสามารถยืดตัวออกโดยอัตโนมัติเมื่อใช้ความเร็วมากกว่า 100 กม./ชม. อีกทั้งยังสร้างจุดเด่นให้กับด้านหลังด้วยชุดท่อไอเสีย RS Exhaust ทรงกลมคู่โทนสีโครเมี่ยม ที่เหมาะสมกับชุดกันชนท้ายสไตล์ RS ที่มาพร้อมกับ Diffuser ในตัว

ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่ตามสไตล์ RS ซึ่งจัดให้ทั้งพวงมาลัย RS ทรง Fat-Bottomed พร้อมแป้น Paddle Shift แบบ RS, เบาะนั่งแบบ RS Sport Seats ที่เป็นครั้งแรกสำหรับแผนก Audi Sport ในการเลือกติดตั้งเบาะนั่งด้านหลังแบบรองรับ 3 ตำแหน่งมาให้ ตลอดจนหน้าจอมาตรวัด Audi Virtual Cockpit ดีไซน์สไตล์ RS

สำหรับขุมพลังของ Audi RS7 Sportback นั้นมากับความเร้าใจที่ยกระดับขึ้นไปมากกว่า RS4 Avant ด้วยเครื่องยนต์พิกัด 4.0 ลิตร TFSI แบบ V8 เสริมแรงด้วยระบบอัดอากาศ Two Twin-Scroll Turbochargers และระบบ Mild-Hybrid System (MHEV) ขนาด 48 โวลต์ ที่ดันให้ RS7 มีกำลังสูงถึง 600 แรงม้า และแรงบิดสูงถึง 800 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Tiptronic พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift สร้างความเร้าใจ ไปพร้อมๆ กับการเพิ่มคุณสมบัติการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น ด้วยการติดตั้งระบบ Cylinder on Demand (COD) เพื่อหยุดการทำงานของบางกระบอกสูบ มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ระบบขับเคลื่อนยังคงมากับสไตล์ 4 ล้อ Quattro Permanent All-Wheel Drive System ที่ให้ความมั่นใจได้ดีจาก การแบ่งสรรกำลังในอัตราส่วนปกติที่ 40% ในด้านหน้า และ 60% ในด้านหลัง และสามารถแปรผันไปตามสถาณการณ์ขับขี่ โดยมีอัตราส่วนไม่เกิน 75% ในด้านหลัง และ 85% ในด้านหลัง

ระบบช่วงล่างมากับรูปแบบ RS Adaptive Air Suspension บนพื้นฐานแบบ 5-Link ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง โดยมีความกว้างของฐานล้ออยู่ที่ 1,668 มม. และล้อหลังที่ 1,650 มม. ทั้งยังมาพร้อมกับระบบ ECP – Electronic Chassis Platform ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ Audi Drive Select ให้เลือกปรับโหมดการขับขี่ โดยระดับปกติที่โหมด “Auto”, “Comfort” และ “Efficiency” จะทำการปรับลดความสูงลงอัตโนมัติ 10 มม. เมื่อใช้ความเร็วมากกว่า 120 กม./ชม. และจะกลับมาสู่ความสูงปกติ เมื่อใช้ความเร็วต่ำกว่า 120 กม./ชม. ขณะที่ใน “Dynamic” โหมดจะทำการปรับลดความสูงลง 10 มม. อย่างถาวร แต่สามารถยกความสูงขึ้นได้ราว 20 มม. ในความเร็วต่ำ เพื่อให้ผ่านอุปสรรคบนท้องถนนได้ง่ายขึ้น

หรือหากต้องการยกระดับความสามารถ ระบบช่วงล่างแบบ RS Sport Suspension Plus ที่มาพร้อมระบบ DRC – Dynamic Ride Control คือ ตัวเลือกที่น่าสนใจด้วยการนำเสนออารมณ์สปอร์ตมากขึ้น โดยเริ่มต้นจากความสูงที่ลดลงอีก 4 มม. เมื่อเทียบกับช่วงล่างแบบ RS Sport Air Suspension อีกทั้งยังมีระบบ DRC – Dynamic Ride Control ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ Audi Drive Select Handling System ที่มีให้เลือกปรับโหมดการขับขี่ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น Efficiency, Comfort, Auto, Dynamic และ RS-Specific รูปแบบเฉพาะตามความชอบของผู้ขับขี่ คือ RS1 และ RS2

สมรรถนะของ RS7 Sportback นั้นร้ายกาจด้วยตัวเลขอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 3.6 วินาที มีท็อปสปีดสูงสุด 250 กม./ชม. และจะขยับเป็น 280 กม./ชม. เมื่อติดตั้งออพชั่น Dynamic Package และจะเดือดขึ้นไปอีกขั้นในระดับ 305 กม./ชม. ด้วยชุดออพชั่น Dynamic Package Plus

และเพื่อหยุดยั้งสมรรถนะร้ายกาจระดับนี้ ทำให้ระบบเบรกของ RS7 จึงได้รับการอัพเกรดเป็นแบบคาลิปเปอร์ 10 Pot จับคู่กับจานเบรกหน้าขนาด 420 มม. และจานเบรกหลังขนาด 370 มม. ซึ่งมีออพชั่นเป็นแบบ RS Ceramic Brake ที่เลือกโทนสีคาลิปเปอร์ได้ เช่น เทา, แดง หรือน้ำเงิน และจะมากับจานเบรกหน้าที่ขยับไปเป็น 440 มม. ขณะที่จานเบรกหลังขนาดเท่าเดิม

 

CR.NetCarShow.com

Comments are closed.