BMW M5 Competition ดุดันมากขึ้น เร้าใจมากกว่าเดิม

0

ค่ายใบฟัดฟ้า-ขาว BMW ปล่อยของใหม่สายโหด BMW M5 เวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนลักษณะทางกายภาพใหม่ให้ดูน่าสนใจมากขึ้น โดยว่ากันตั้งแต่ การลดน้ำหนักส่วนเกิน เช่น ฝากระโปรงหน้าที่ทำจากวัสดุอลูมิเนียม เช่นเดียวกับชุดกระจังหน้า BMW Kidney Grille แบบ M-Specific Double Bars ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมการประทับตราสัญลักษณ์ M ขณะที่ส่วนของหลังคาก็ทำการเปลี่ยนวัสดุไปใช้ คาร์บอนไฟเบอร์ผสมพลาสติก CFRP

ด้านงานดีไซน์มีการปรับเปลี่ยนให้ดูสปอร์ต และทรงพลังมากขึ้น ในส่วนของทั้งกันชนด้านหน้า และด้านหลัง ซึ่งประกอบด้วยกันชนหน้าที่มากับช่องดักอากาศขนาดใหญ่ ซึ่งบริเวณกึ่งกลางจะได้รับการติดตั้งระบบ Oil Cooler และชุดเซ็นเซอร์ระบบ ACC (Active Cruise Control) ไว้กล่องรูปทรง 6 เหลี่ยม นอกจากนี้ยังเพิ่มความโดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ LED รูปทรง L-Shaped  โดยมีออพชั่นเป็นชุดไฟหน้าระบบ Adaptive LED Headlights และ BMW Laserlight เป็นออพชั่นให้เลือกในชุด BMW Individual lights Shadowline

สำหรับในมุมมองด้านหลังมีการเพิ่มความเร้าใจมากขึ้นจากชุดท่อไอเสีย M-Specific Twin Tailpipes รับกับความดุดันของชุดกันชนท้าย ซึ่งมากับ Diffuser ดีไซน์ใหม่ขนาดใหญ่ขึ้น เสริมความสะดุดตาด้วยชุดไฟท้ายแบบ LED สไตล์ L-Shaped แบบ 3 มิติ

นอกจากนี้ตัว BMW M5 Competition ยังเพิ่มความดุดันให้กับรูปลักษณ์ด้วยงานตกแต่งรายละเอียดแบบ Black Style ที่ประกอบด้วยการเลือกใช้โทนสีดำ High-gloss Black ในส่วนของชุดกระจังหน้า, กระจกมองข้าง, สปอบเลอร์หลัง และการประทับตรา M5 Competition เพื่อบ่งบอกสายพันธ์ บริเวณกระจังหน้า และฝากระโปรงท้าย, กาบบันได ตลอดจนชุดท่อไอเสีย M Sport แบบ Black Chrome ขณะที่ล้ออัลลอยด์ของทั้ง 2 รุ่นที่จัดมาให้นั้น คือ ขนาด 20 นิ้ว ลาย M Double-Spoke ที่ยกมาจากพี่ใหญ่อย่าง BMW M8

ด้ายภายในห้องโดยสารยังคงเป็นสไตล์ที่คุ้นเคย โดยมีอารมณ์ความสปอร์ตที่สัมผัสได้จากชุดเบาะนั่ง M Sport Seats หุ้มด้วยหนัง Merino และการประทับตราสัญลักษณ์ M บนหมอนรองศรีษะ และเพิ่มเติมด้วยการอัพเกรดเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบาย เช่น หน้าจอ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้ว ขณะที่บนคอนโซลกลางได้มีการเพิ่มปุ่มควบคุมขึ้นใหม่ 2 ตำแหน่ง เช่นเดียวกับ M8 เพื่อให้เข้าถึงการตั้งค่าต่างๆ ตลอดจนเข้าถึงอรรถรสการขับขี่ M Mode ได้ง่ายขึ้น

ไฮไลต์ของ BMW M5 เวอร์ชั่นล่าสุด คือ สมรรถนะซึ่งมีการปล่อยออกมาให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ M5 รุ่นมาตรฐาน และ M5 Competition จากพื้นฐานเครื่องยนต์เบนซิน V8 พิกัด 4.4 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศ M TwinPower Turbo โดยพละกำลังสูงสุดของ M5 นั้นว่ากันที่ 600 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 753 นิวตันเมตร ขณะที่ M5 Competition ส่งตรงความเร้าใจมากกว่า ด้วยเรี่ยวแรงสูงสุด คือ 625 แรงม้า และแรงบิดระดับ 750 นิวตันเมตร

โดยมีระบบส่งกำลังเป็นชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด M Steptronic พร้อมระบบ Drivelogic ทั้ง 2 รุ่น สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ M xDrive intelligent all-wheel-drive ที่มากับชุดเฟืองท้ายแบบ Active M Differential ภายใต้การปรับแต่งที่ให้มีอารมณ์การขับขี่ราวกับรถขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งทำการควบคุมการถ่ายทอดกำลังโดยระบบ Dynamic Stability Control (DSC) และฟังค์ชั่น M Dynamic Mode (MDM) ให้เลือกสร้างความเร้าใจ ทั้งในรูปแบบของการขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ (2WD), 4 ล้อ (4WD) และ 4 ล้อแบบสปอร์ต (4WD Sport)

ทั้งยังรวมไปถึงฟังค์ชั่นสำหรับเลือกปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ ที่ให้เลือกคือ Comfort, Sport และ Sport+ ที่ทำงานร่วมกับระบบ Variable Damper Control (VDC) ทำหน้าที่ปรับแต่งช่วงล่าง และระบบพวงมาลัย M Servotronic Steering โดยในตัวโหดอย่าง BMW M5 Competition จะได้รับการอัพเกรดเพิ่มเติมด้วยระบบช่วงล่างใหม่ ที่ปรับแต่งให้เหมาะกับแชสซีร์ของรถ และยังสามารถทำการปรับระดับความสูง-ต่ำของตัวรถได้ถึงราวๆ 7 มม. เพื่อยกระดับอารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ต

ซึ่งมีตัวเลขด้านสมรรถนะ 0-100 กม./ชม. ของ M5 มาตรฐาน คือ 3.4 วินาที ขณะที่ M5 Competition จะเร็วขึ้นเป็น 3.3 วินาที ส่วนท็อปสปีดของทั้ง 2 รุ่นจะถูกจำกัดเอาไว้ที่ 250 กม./ชม. และจะขยับเป็นท็อปสปีดที่ 305 กม./ชม. หากติดตั้งออพชั่น M Driver’s Package

CR.NetCarShow.com

Comments are closed.