Koenigsegg Gemera

0

Koenigsegg Gemera ถูกเปิดตัวในฐานะยนตรกรรม Mega-GT เป็นคันแรกของโลก และรวมถึงการเป็นรถ 4ที่นั่งรุ่นแรกของแบรนด์ Koenigsegg ด้วยเช่นกัน พร้อมจำนวนการผลิตที่ตั้งเป้าไว้เพียงแค่ 300 คันเท่านั้น โดยเปิดเผยรายละเอียดเบื้องต้นด้านรูปลักษณ์ กับมุมมองด้านหน้าที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Koenigsegg CC ปี 1996 ผสมผสานด้วยสไตล์ของเครื่องบินรบ ในส่วนของกระจกบังลมหน้าที่ออกแบบให้หลบซ่อนเสา A-Pillars อย่างแนบเนียน พร้อมกับเพิ่มความสะดุดตาด้วยการดีไซน์ระยะโอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าที่สั้น และการมีช่องดักอากาศขนาดใหญ่

Koenigsegg Gemeraขณะที่ด้านข้างเรียกว่าสะกดสายตาด้วยการออกแบบประตูที่เรียกว่า Koenigsegg Automated Twisted Synchrohelix Actuation Doors (KATSAD) เพื่อให้เปิดได้อย่างกว้างขวาง โดยไร้เสา B-Pillars เพื่อรองรับการเข้าออกที่สะดวกสบายของทั้ง 4 ตำแหน่งที่ทั้ง 4 และทั้งหมดถูกสร้างขึ้นภายใต้ตัวถังน้ำหนักเบาแบบ Carbon Monocoque

Koenigsegg Gemeraส่วนภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้สามารถตอบสนองการใช้งานได้ในทุกวัน พร้อมฟังค์ชั่นสุดล้ำอย่างเช่น ช่องวางแก้ว พร้อมระบบทำความเย็น 4 ตำแหน่ง และระบบทำความร้อน 4 ตำแหน่ง, หน้าจอ Infotainment Displays ที่ติดตั้งมาให้ทั้งด้านหน้า และผู้โดยสารด้านหลัง เช่นเดียวกับระบบ Wireless Phone Chargers ไปจนถึงการรองรับระบบ Apple CarPlay, การเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต และ Wi-Fi ตลอดจนชุดเครื่องเสียงที่มากับลำโพงถึง 11 ตำแหน่ง ตามด้วยไฟสำหรับอ่านหนังสือ 4 ตำแหน่ง, ระบบทำความร้อนเบาะนั่ง, เบาะนั่งปรับไฟฟ้า, ระบบปรับอากาศแบบ 3 Climate Zones ปิดท้ายด้วยกล้องที่ติดตั้งมาให้ทั้งภายนอก และภายในตัวรถ

Koenigsegg Gemeraไฮไลต์ของ Koenigsegg Gemera ในฐานะยนตรกรรม Mega-GT คือ เรื่องของสมรรถนะที่มากับเรี่ยวแรงรวม 1,700 แรงม้า และแรงบิดสูงถึง 3,500 นิวตันเมตร ที่ตอกสถิติ 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 1.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 400 กม./ชม. จากความสามารถของเครื่องยนต์ที่ชื่อว่า Tiny Friendly Giant หรือเรียกสั้นๆ ว่า TFG ในสไตล์เบนซินแบบ 3 สูบ Freevalve พิกัด 2 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ Twin Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 3 ตัว โดย 2 ตัวจะรับผิดชอบล้อคูหลัง และอีก 1 ตัวรับผิดชอบในส่วนของเครื่องยนต์ ทำให้สามารถขับเคลื่อนในโหมด Hybrid ทำระยะทางได้ประมาณ 950 กม. และทำระยะทางได้มากถึง 50 กม. ในโหมด EV

Koenigsegg Gemeraทั้งยังมอบเสถียรภาพในการขับขี่ด้วยระบบพวงมาลัยแบบเลี้ยวล้อหลังที่เรียกว่า Rear-Wheel Steering ที่เสริมด้วยระบบ All-Wheel Torque Vectoring ในการช่วยจัดสรรพละกำลังแรงบิดอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างอรรถรสความสนุกในการขับขี่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย

 

CR. NetCarShow.com.

Comments are closed.