ขณะที่โลกยุคใหม่กำลังให้ความสนใจการมาของ Mercedes-EQ ยนตรกรรมไฟฟ้า ที่โดดเด่นด้วยความสามารถด้าน
“รักษ์โลก” พร้อมๆ กับตอบโจทย์เรื่อง “ความแรง” … แต่สำหรับสาย Old Schoolที่ชอบความเร้าใจสไตล์ “ลากรอบ” คำตอบโดนๆ คงต้องยกให้ ที่มีให้เลือกมากมายหลากหลายรุ่น แล้วก็ถ้าอยากได้ทั้ง “ความแรง” และ “ความหรู” ควบคู่ไปด้วยกัน งานนี้ต้องพึ่ง Mercedes-Benz SL-Class แห่งตระกูล AMG ที่มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ 55 AMG และ 63 AMG
ส่วนรูปลักษณ์ของทั้ง 2 รุ่นยังคงมากับสไตล์ SL-Class ที่สืบทอดกันมากว่า 70 ปี นับตั้งแต่โมเดลแรก เช่น ฐานล้อ และฝากระโปรงหน้าที่ยาว พร้อมระยะโอเวอร์แฮ็งค์ที่สั้น และตำแหน่งห้องโดยสารที่ขยับไปด้านหลังมากขึ้น, กระจกบังลมหน้าที่มากับกรอบอันแข็งแกร่ง ในองศาที่ลาดเอียง ทั้งยังมีซุ้มล้อขนาดใหญ่ พร้อมล้ออัลลอยด์ด้านหน้าขนาด 20 นิ้ว และด้านหลังขนาด 21 นิ้ว ที่ช่วยให้ดูความทรงพลัง เช่นเดียวกับมุมมองด้านหลัง รวมไปถึงนำเสนอความสปอร์ตที่ชัดเจน ขณะทำการปิดหลังคาแบบ Soft –Top ที่ลงตัวกับชุดกระจังหน้า AMG-Specific เพื่อสื่อถึงตัวแข่ง 300 SL ปี 1952
ด้านภายในห้องโดยสารในรูปแบบ 2+2 ที่นั่ง มาพร้อมกับจุดเด่นหลักในการนำเสนอ คือ Performance และ Luxury พร้อมออพชั่นอำนวยความสะดวกระดับไฮไลต์ เช่น ชุดมาตรวัดที่ผสมผสานทั้งแบบ Analogue และ Digital ซึ่งเรียกว่า “Hyper Analogue” พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกจาก MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto
แต่ทั้งหมดนั่นยังไม่น่าสนใจมากเท่ากับ “สมรรถนะ” จากขุมพลังแบบ One Man, One Engine ของเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร เสริมแรงด้วยระบบอัดอากาศ Biturbo ที่ได้รับการอัพเกรดในส่วนของอ่างน้ำมันเครื่องใหม่ พร้อมด้วยการปรับตำแหน่งอินเตอร์คูลเลอร์ เสริมด้วยระบบระบายอากาศข้อเหวี่ยง ตามด้วยการปรับระบบท่อไอดี และท่อไอเสีย ไปจนถึงการปรับบูสต์ และซอฟต์แวร์เครื่องยนต์ให้เหมาะสม จนได้พละกำลังสมฐานะรหัส “63” คือ 577 แรงม้า พร้อมแรงบิดระดับ 800 นิวตันเมตร
ส่วนระบบส่งกำลังนั้นมากับชุดเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด AMG Speedshift MCT สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC+ พร้อมฟังค์ชั่นปรับเปลี่ยนการขับขี่ AMG Dynamic Select ให้เลือกถึง 6 รูปแบบ คือ Slippery, Comfort, Sport, Sport +, Individual และ Race
ด้านระบบช่วงล่างของ 63 ซึ่งมีด้านหน้าแบบมัลติลิงค์ และด้านหลังแบบ 5-Link มาพร้อมระบบ AMG Active Ride Control เสริมด้วยเหล็กกันโคลงไฮดรอลิคแบบ Active พร้อมระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง Active Rear-Axle Steering ก่อนปิดท้ายด้วยระบบเบรก AMG ที่อัพเกรดขึ้นใหม่