เราเชื่อว่าหลายคนเคยมีความฝัน หรือความหวัง ที่อยากจะก้าวขึ้นมาเป็นบุคคลโดดเด่นนำเทรนด์ในกลุ่มเพื่อนฝูง หรือผู้คนรอบข้างทั้งๆ ที่ตัวเองก็มี “ภาพรวมโปรไฟล์” แสนธรรมดาไม่เตะตาเท่าไหร่นัก เพราะงั้นวิธีที่จะปั้นแต่งตัวเองขึ้นมาได้ก็คือ เปลี่ยนบุคลิกใหม่ และไขว่คว้าหา Gadget ล้ำๆ มาสร้างจุดเด่นให้ Outstanding จนเป็นที่ยอมรับ
ซึ่งถ้าเราจะบอกตรงๆ ว่านั่นคือ กลยุทธ์ดึกดำบรรพ์ ที่ยังคงมีให้เห็นอยู่บ้างในปัจจุบันก็คงจะไม่ผิดนัก แต่ถ้าคุณเป็นผู้ที่ก้าวทันกระแส ก็จะพบว่าทุกวันนี้มีเส้นทางสร้างให้คุณ Outstanding ในสังคมของตัวเองมากมาย และหนึ่งในวิธีที่ง่ายสุดๆ ณ ตอนนี้ก็คือ การเลือกเป็นเจ้าของ New MG5 ซักคัน … และหากสงสัยว่า “ทำไม” ล่ะก็ ลองมาดูในสิ่งที่เราจะเล่าให้ฟังสิครับ รับรองว่าเข้าใจ และไม่รอช้าที่จะคว้าโอกาสในการเป็นเจ้าของแน่นอน
เริ่มต้นด้วยสิ่งที่ตามองเห็นอย่างรูปลักษณ์ ซึ่งโดดเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล ด้วยการผสมผสานความเป็น Sedan เข้ากับความเป็น Coupe ภายใต้แนวคิด Brit Dynamic มาพร้อมส่วนประกอบเพื่อสร้างความ “เตะตา” ที่ไล่มาตั้งแต่ชุดไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights ที่ประกบอยู่บนชุดกระจังหน้าแบบ 3 มิติ Digital Burning Grille ส่งสายตาสู่ช่องดักอากาศขนาดใหญ่ด้านล่าง ซึ่งรวมกันสร้างความเฉียบคมให้อารมณ์สปอร์ตเต็มขั้น
ต่อเนื่องไปที่มุมมองด้านข้างซึ่งนำเสนอความหล่อเหลาผ่านแนวเส้นหลังคาสไตล์ Coupe ด้วยการวางองศาให้ลาดเอียงลงสู่ด้านหลัง ที่มีพระเอกเป็นชุดไฟท้ายแบบ LED ในดีไซน์ Leopard Claw, ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED และปลายท่อไอเสียแบบโครเมี่ยม 2 ตำแหน่งบริเวณมุมกันชน ก่อนเสริมทัพความสปอร์ตให้มากขึ้นไปอีกด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว แบบ 5 ก้านในดีไซน์ใบพัด และหลังคาซันรูฟ (Sunroof) ที่จัดมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสาร นอกจากความกว้างขวางแล้ว เรื่องของสไตล์การตกแต่ง และออพชั่นที่จัดมาให้แบบชัดเจนในความ “คุ้มค่า” จนต้องออกปากว่า “ถูกใจ” แน่ เอาแค่เฉพาะชิ้นงานระดับไฮไลต์ เช่น ดีไซน์คอนโซลกลางแบบ Driver-Focus Cockpit ที่มากับแผงคอนโซลแบบ 3D Diamond Design, เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มหนังปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางฝั่งคนขับ ที่เมื่อประทับร่างลงไปแล้วพอเหมาะกับตำแหน่งจับพวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่นทรง D-Shape และมุมมองบนหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว ได้อย่างพอดิบพอดี
ขณะที่ฟังค์ชั่นความบันเทิงก็มีความน่าสนใจ ทั้งตัวหน้าจอ Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว ที่เชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android แถมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และความสามารถในการกรองอากาศได้ถึงระดับ PM 2.5 และที่มากไปกว่านั้น จนเรียกได้ว่าเหนือกว่าคู่แข่งระดับเดียวกัน ก็คือ ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ที่ผ่านการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น โดยประกอบด้วย 3 หมวดหมู่หลักๆ คือ
ฟังค์ชั่น Smart Command หรือ ระบบสั่งการอัจฉริยะ ที่จะทำให้การใช้ชีวิตเป็นเรื่องง่ายขึ้น เพราะนอกจากระบบมาตรฐานแล้ว ยังเสริมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในชื่อ Digital Key เข้ามาให้ ซึ่งไม่เพียงแค่สั่งการเปิด-ปิด และสตาร์ทรถเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งกุญแจ Digital Key ให้กับผู้อื่น เพื่อเปิดใช้งานรถยนต์ผ่านแอพพลิเคชั่น i-SMART ได้อีกด้วย
ฟังค์ชั่น Smart Connect หรือ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ อันนี้ก็ช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับโลกออนไลน์ได้อย่างไม่มีติดขัด ไม่ว่าจะเที่ยว จะบันเทิง หรือแม้กระทั่งการจราจร
และฟังค์ชั่น Smart Check หรือ ระบบตรวจเช็คอัจฉริยะ ที่เจ้ารถของสามารถตรวจสอบสถานะต่างๆ ของรถได้ง่ายๆ จากบนสมาร์ทโฟน เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัย และความมั่นใจมากขึ้นไปอีกขั้น
ซึ่งเมื่อเอ่ยถึงเรื่องความปลอดภัย อันนี้ก็ต้องยอมรับว่า New MG5 เค้าให้มาแน่นหนาไม่น้อยหน้าใครจริงๆ ตั้งแต่โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF (Full Space Frame) พร้อมด้วยโปรแกรม Synchronized Protection System ที่ช่วยผสานการทำงานทุกระบบให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างเราแนะนำให้ลองเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ดีกว่า แต่ที่แน่ๆ บอกเลยว่า “ด้อยกว่าแบรนด์หรูฝั่งยุโรป” ไม่เท่าไหร่
New MG5 ขับเคลื่อนความล้ำสมัยด้วยเครื่องยนต์เบนซิน พิกัด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC แบบไม่มีระบบอัดอากาศ ซึ่งพละกำลังสูงสุดจะอยู่ที่ 114 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร โดยมีชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด ส่งถ่ายกำลังไปยังล้อหน้า ภายใต้การควบคุมจากระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) และการรองรับจากช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension ที่มีพื้นฐานด้านหน้าแบบอิสระหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบ Torsion Beam เสริมด้วยความมั่นใจจากดิสก์เบรก 4 ล้อ และเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ซึ่งนั่นคือทั้งหมดที่สร้างสรรค์อรรถรสการขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยสไตล์ของยนตรกรรมยุโรปสมรรถนะสูง โดยในช่วงออกตัวจากจุดหยุดนิ่งอาจจะไม่ได้ดั่งใจนัก ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยหากพลั้งเผลอกดคันเร่งไปโดยไม่เจตนา ก่อนจะพบเจอความกระฉับกระเฉงแบบเต็มๆ ได้ในช่วงเกิน 2,000 รอบต่อนาทีขึ้นไป พร้อมสไตล์การควบคุมที่เฉียบคมจากความเหมาะสมของน้ำหนักพวงมาลัยอันดีงาม ทั้งในความเร็วต่ำ และความเร็วสูง ที่มากพอสำหรับสร้างความสนุกในทุกการขับขี่
และจะยิ่งมากไปกว่านั้น เมื่อผสมรวมเข้ากับอารมณ์ของช่วงล่างที่แน่นหนึบสมกับนิยาม ซึ่งแน่ล่ะว่ากับพื้นถนนแย่ๆ มันอาจจะไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้โลดแล่นบนถนนราบเรียบ และเนียนพอล่ะก็ New MG5 จะมอบอารมณ์ราวกับรถหรูฝั่งยุโรปให้สัมผัสอย่างชัดเจน ไปพร้อมๆ กับการรับรู้ถึงการเคลื่อนตัวที่อันเต็มไปด้วยเสถียรภาพ โดยเฉพาะเมื่อได้ทะยานไปบนความเร็วเดินทาง หรือมากกว่า ภายใต้พื้นฐานของความปลอดภัย
เอาเป็นว่า “แค่อ่านอาจจะเห็นภาพได้ไม่มากพอ” ฉะนั้นเราขอแนะนำให้พุ่งตัวไปยังโชว์รูมที่ใกล้ที่สุด เพื่อสัมผัสตัวเป็นๆ ของ New MG5 ให้ครบถ้วน ตั้งแต่ในเรื่องของงานดีไซน์ที่พนันได้ว่าคุณจะประทับใจ พอๆ กับเหล่าลูกเล่นออพชั่นที่จัดมาให้ครบครัน และสามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์จนแทบไม่ต้องหาอะไรมาเติม เช่นเดียวกับสมรรถนะ ซึ่งเราบอกเลยว่ามากพอสำหรับการใช้งาน และนั่นล่ะครับ คือ วิธีที่ง่ายที่สุดในการสร้างตัวเองให้โดดเด่นในสังคม ไม่ว่าคุณจะเป็นบุคคลวัยไหนก็ตาม แถมงบประมาณที่ใช้ยังสบายกระเป๋า เพราะเริ่มต้นเพียง 559,000 บาท หรือหากต้องการดันให้ครบก็จบที่รุ่นท็อป 689,000 บาทเท่านั้น
