Volkswagen Golf R อีกหนึ่งยนตรกรรมสายสมรรถนะสูงจากแบรนด์ VW ซึ่งมากับฐานของ Golf R เจนเนอเรชั่นล่าสุด ที่เพิ่มความสดใหม่ให้กับรูปลักษณ์ด้วยงานออกแบบใหม่ เช่นชุดกันชนหน้าที่ได้แนวทางงานดีไซน์มาจากสายมอเตอร์สปอร์ต เช่น Splitter ใต้กันชน และช่องดักอากาศที่มากับขนาดใหญ่โตโทนสีดำเงา High Gloss Black ตัดกับชุดกระจังหน้าที่เพิ่มความสะดุดตาด้วยแถบเส้นแนวนอนโทนสีน้ำเงิน พร้อมเส้นไฟ LED ที่จะสว่างขึ้นทันทีเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อทำหน้าที่เป็นชุดไฟ Daytime Running Lights ในตัว
มุมมองด้านข้างจะมากับสไตล์ Hatchback 5 ประตู ซึ่งในเวอร์ชั่นจำหน่ายสหรัฐจะได้รับการติดตั้ง Sunroof มาให้เป็นมาตรฐาน นอกจากนี้ทุกรุ่นจะมากับชุดสเกิร์ตด้านข้างดีไซน์พิเศษ และฝาครอบกระจกมองข้างโทนสีโครเมี่ยม และช่วงล่างที่ลดระดับความสูงลงอีกราว 0.8 นิ้ว รับกับล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว เสริมด้วยความโดดเด่นจากชุดคาลิปเปอร์เบรกโทนสีน้ำเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์ R ขณะที่ด้านหลังมากับชุดกันชนท้ายดีไซน์ใหม่ ประกบด้วยชุด Diffuser โทนสีดำ และชุดท่อไอเสียทรงกลมคู่แบบ Sport Exhaust ตลอดจนการติดตั้งสปอยเลอร์หลังคา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแรงกด Downforce
ภายในห้องโดยสารมากับความล้ำสมัยด้วยระบบดิจิตอล ทั้งจากหน้าจอ Discover Pro Infotainment ขนาด 10 นิ้ว แบบ Touchscreen และชุดหน้าจอมาตรวัด Digital Cockpit ทั้งยังยกระดับความหรูหรา และอารมณ์สปอร์ต ด้วยการเลือกใช้วัสดุ เช่น เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sport Seats หุ้มด้วยหนัง Nappa ควบคู่ไปกับการตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ และการเก็บรายละเอียดด้วยโทนสีน้ำเงิน พร้อมกับโลโก้ “R” ตามด้วยการเพิ่มความเร้าใจจากชุดพวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่นทรงสปอร์ต พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift และมากับการตัดเย็บด้วยด้วยโทนสีน้ำเงิน กับการประทับตราสัญลักษณ์ “R” เช่นกัน
สำหรับจุดเด่นของ Golf R นั้นมากับสมรรถนะ จากเครื่องยนต์เบนซินพิกัด 2.0 ลิตร TSI พร้อม Turbocharged ที่อัพเกรดพละกำลังสูงสุดมาให้ใช้ที่ 315 แรงม้า หรือเพิ่มขึ้น 27 แรงม้าจากเจนเนอเรชั่นที่แล้ว พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุดที่ขยับจาก 400 นิวตันเมตรไปเป็น 420 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด โดยมีเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด DSG คลัทช์คู่ เป็นออพชั่นให้เลือก พร้อมฟังค์ชั่นปรับโหมดการขับขี่ที่ประกอบด้วย Comfort, Sport, Race และIndividual รวมไปถึงโหมดใหม่ล่าสุด คือ Special และ Drift
ส่วนระบบส่งกำลังสำหรับ Golf R จะมากับระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ All-Wheel-Drive ที่อัพเกรดขึ้นใหม่ให้มีคุณสมบัติที่เหนือกว่าระบบ 4Motion ที่มีการกระจายกำลังหน้า/หลังแบบ 50/50 ด้วยการกระจายเรี่ยวแรงได้ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง รวมถึงทั้งฝั่งซ้าย และขวา ซึ่งทำให้ลดอาการ Underster ขณะอยู่ในโค้งได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งยังมีระบบช่วงล่างที่ลดความสูงลงอีก 0.8 นิ้ว พร้อมการปรับเซ็ทใหม่ จากการปรับเซ็ทความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ให้กับชุดสปริง และเหล็กกันโคลง ตลอดจนการติดตั้งซับเฟม ทำจากวัสดุอลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนัก ตลอดจนปรับมุมมแคมเบอร์ของล้อหน้าให้ติดลบ 1°20′ องศา ไปจนถึงการติดตั้งระบบล็อคเฟืองท้าย XDS และระบบ Adaptive Chassis Control (DCC) เพื่อเพิ่มความสามารถในการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงมากขึ้น
CR.NetCarShow.com
