แบรนด์ Super Car เมืองผู้ดีอย่าง Aston Martin เปิดหน้าประวัติศาสตร์บทใหม่ในรอบ 106 ปี ด้วยผลงานชินล่าสุด Aston Martin DBX ในฐานะยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV รุ่นแรกของค่าย และมาพร้อมกับงานดีไซน์รูปลักษณ์ที่ถ่ายทอด DNA ความเป็น Aston Martin เช่น ด้านหน้าที่มากับชุดกระจังที่โดดเด่นความสวยงาม สื่อถึงความคลาสสิคจากยุคอดีตของแบรนด์ รับกับชุดไฟหน้าแบบ Bi-LED และเส้นสายเฉียบคมบนฝากระโปรงหน้าที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งตกแต่งเพิ่มความโดดเด่นด้วยวัสดุสีซาติน โครเมี่ยม ในส่วนของช่องระบายอากาศ ทั้งยังเพิ่มความสะดุดตาด้วยชุดไฟ DRLs (Daytime Running Lights ดีไซน์แปลกใหม่ ซึ่งอยู่โดยรอบช่องดักอากาศ เพื่อยกระดับด้าน Aerodynamicเช่นเดียวกับในมุมมองด้านข้างที่เพิ่มช่องระบายอากาศบริเวณซุ้มล้อ ที่เพิ่มความดุดันด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 22 นิ้ว ลาย V-Spoke โดยมีลายที่เรียกว่า “Ribbon” ให้เลือกเป็นออพชั่น
ขณะที่ด้านหลังนั้นมากับงานออกแบบที่เพิ่มความทรงพลัง จากชุดไฟท้ายแนวยาว พร้อมเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Aston Martin Vantage ลงตัวกับแนวเส้นหลังคาที่ลากยาวต่อเนื่องสู่บานประตูฝาท้าย ที่เสริมหล่อด้วยชุดสปอยเลอร์ทั้งบนหลังคา และบริเวณขอบฝากระโปรงท้ายในสไตล์ Ducktail ก่อนจะปิดท้ายความเร้าใจด้วยชุดท่อไอเสียคู่ทรงกลมแบบ Twin Exhausts
ภายในห้องโดยสารของ Aston Martin DBX นั้นมากับดีไซน์จากภายสู่ ภายนอก เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีความกว้างขวาง สะดวกสบายรองรับผู้โดยสารในการเข้า-ออกได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับยังคงไว้ซึ่ง DNA ของ Aston Martin เช่น ชุดพวงมาลัย พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ดีไซน์ใหม่ ตลอดจนเบาะนั่ง ซึ่งอัพเกรดความสะดวกสบายด้วยที่วางแขนทั้งด้านหน้า และด้านหลัง รวมไปถึงความอเนกประสงค์จากส่วนของฝาท้ายควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อเปิดห้องเก็บสัมภาระขนาด 632 ลิตร ที่เพิ่มพื้นที่ขึ้นไปอีก 62 ลิตรได้เพียงพับเบาะนั่งด้านหลังแบบ 40:20:40 ทั้งยังสามารถปรับระบบช่วงล่างให้ลดความสูงลง เพื่องสร้างความสะดวกในการขนสัมภาระ หรือทำการเชื่อมต่อกับรถพ่วง Trailer
ส่วนออพชั่นอำนวยความสะดวกสุดล้ำ จะประกอบไปด้วย ชุดกุญแจแบบ Keyless, ชุดหน้าจอมาตรวัด TFT ความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว ที่ออกแบบภาพกราฟฟิคในสไตล์เฉพาะของ Aston Martin โดยมีระบบความบันเทิงที่มากับชุดหน้าจอ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อ Smartphones, Bluetooth ตลอดจนความบันเทิงอย่างวิทยุ FM/AM, DAB หรือ SiriusXM Satellite Radio ตลอดจนรองรับระบบความปลอดภัยจากระบบกล้องมองภาพ 360 องศารอบคันอีกด้วย
ขุมพลังของ Aston Martin DBX มากับ “ของใหม่” อันทรงพลังจากเครื่องยนต์เบนซินพิกัด 4.0 ลิตรแบบ V8 พื้นฐานเดียวกับที่ใช้ในตัวแรงอย่าง Vantage และ DB11 V8 เสริมแรงด้วยระบบอัดอากาศ Twin-Turbo Charged ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ โดยจะมีกำลังสูงสุด 550 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 700 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่จัดสรรกำลังอย่างเหมาะสมผ่านระบบ Active Centre Transfer ที่มีการแบ่งสัดส่วนปกติอยู่ที่ด้านหน้า 47% และด้านหลัง 53% อีกทั้งในส่วนของล้อคู่หลังนั้นยังได้มีการติดตั้งเฟืองท้ายแบบ Limited-Slip Differential ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนระบบ Active Differentials และระบบ Torque Vectoring มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ส่วนระบบช่วงล่างนั้นมากับระบบ Adaptive Air Suspension ที่ปรับแต่งได้ 3 รูปแบบ พร้อมระบบ eARC (electronic Anti-Roll Control) สำหรับทำหน้าที่ควบคุมการโคลงของตัวรถด้วยระบบไฟฟ้า 48 โวลท์ ทั้งยังทำให้สามารถปรับเพิ่มความสูงได้ 45 มม. หรือลดความสูงลง 50 มม. ได้ตามสภาพการขับขี่อีกด้วย
ปิดท้ายด้วยเรื่องของระบบความปลอดภัยของ DBX จะมากับระบบเบรกสมรรถนะสูงที่มีพื้นฐานมาจากตัวโหด DBS Superleggera ซึ่งประกอบด้วยคาลิปเปอร์ 6 Pot จับคู่กับจานเบรกด้านหน้าขนาด 410×38 มม. และด้านหลังขนาด 390×32 มม. พร้อมตัวเลขสุดเร้าใจในเรื่องของสมรรถนะ ซึ่งเคลมอัตราเร่งจาก 0-62 ไมล์/ชม. เอาไว้ใน 4.5 วินาที พร้อมท็อปสปีดสูงสุดที่ 181 ไมล์/ชม.
CR.NetCarShow.com
