BRABUS P 900 Rocket Edition

0

ของบางอย่างมี “เงิน” ก็ใช่ว่าจะเป็น “เจ้าของ” ได้ … ตัวอย่างง่ายๆ ก็เจ้า BRABUS P 900 Rocket Edition ที่เห็นอยู่ตรงหน้า เพราะนี่คือผลงานระดับ BRABUS Masterpiece ที่หยิบเอาพื้นฐานของ Mercedes-AMG G63 มาสร้าง Performance Pick-Up ซึ่งผสมผสานทั้งแข็งแกร่งที่ถ่ายทอดมาจากไลน์อัพของ BRABUS XLP และความสามารถบนสนามแข่งระดับที่ไม่น้อยหน้า Supercar มารวมไว้เป็นครั้งแรก … เหนือกว่านั้นก็คือ BRABUS P 900 Rocket Edition จะถูกผลิตเพื่อจำหน่ายทั่วโลกเพียง 10 คันเท่านั้น

รูปลักษณ์ของ BRABUS P 900 Rocket Editio ยังคงได้รับการพัฒนา และปรับปรุง ภายใต้แนวทาง Rocket Design อันเอกลักษณ์ ผสานด้วยการนำเสนอรายละเอียดการออกแบบชั้นสูงผ่านแนวคิด BRABUS Rocket Edition Widestar ที่ยกระดับความโดดเด่นมากขึ้นไปอีกขั้น เช่น กระจังหน้า และสปอยเลอร์ใต้กันชนหน้า ที่สร้างขึ้นจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งเพิ่มโทนสีแดง Rocket Red บนซี่กระจัง และครีบรีดอากาศแนวตั้งบริเวณมุมมกันชน เท่านั้นยังไม่พอ เพราะมีการติดตั้งชุดไฟ Ambience Light ที่กระจังหน้ามาให้ ช่วยเพิ่มความเร่าร้อนในมุมมองด้านหน้า ให้ดูราวกับการปล่อยจรวด “Rocket Launch” ได้ชัดเจนสมชื่อมากขึ้น

ไล่ขึ้นไปด้านบน คือ เซอร์ไพรส์จาก BRABUS กับฝากระโปรงหน้าคาร์บอนไฟเบอร์ใหม่ ที่ใช้ชื่อเรียกว่า “PowerView” ด้วยที่มาจากงานดีไซน์ ซึ่งสามารถมองเห็นเครื่องยนต์ V8 Twin-Turbocharged ได้โยตรง ขยับลงมาที่โป่งซุ้มล้อขนาดใหญ่ วัสดุที่ใช้ยังคงเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ เช่นเดียวกับชุด Diffuser ทรงโหดด้านหลัง ประกบด้วยครีบรีดอากาศแนวตั้งด้านข้าง ที่ยังคงโดดเด่นด้วยโทนสีแดง Rocket Red

ภายในห้องโดยสารยังคงมากับความ Masterpiece ตั้งแต่วัสดุที่เลือกใช้ ไปจนถึงงานฝีมือระดับ Handcrafted เต็มรูปแบบ กับลวดลายพิเศษ ซึ่งทาง BRABUS เรียกว่า “Seashell Diamond” เช่น เบาะนั่ง, แผงประตู และพรมพื้น ภายใต้การเลือกใช้สีสไตล์ทูโทน คือ สีดำเป็นหลัก สลับด้วยสีแดง Rocket Red ในบางรายละเอียด เช่น แผงประตู, มือจับเปิดประตู, ชุดสวิทช์ควบคุม, ลำโพง และช่องกรอบช่องแอร์

เสริมด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในบางส่วน อาทิ แป้นเปลี่ยนเกียร์ BRABUS Race Paddle Shifters, พวงมาลัย, คอนโซลหน้า, คอนโซลกลาง และแผงประตู นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนประกอบที่เป็นวัสดุอลูมิเนียมในส่วนของแป้นเหยียบ และสลักล็อคประตู ที่ยังคงธีมความโดดเด่นด้วยโทนสีแดง Rocket Red เช่นกัน

ก่อนปิดท้ายด้วยที่สุดของความหรูหราบนคอนโซลกลาง จากนาฬิกาอะนาล็อค โดยฝีมือการออกแบบของ Panerai Luminor Design ที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความระดับ แม้รูปลักษณ์จะเป็น Pick-Up ก็ตาม อีกทั้งยังเพิ่มเติมความทรงคุณค่าด้วยลายปั๊มนูนตัวเลข “77” อยู่ในบางจุด เช่น ผ้าหลังคา โดยความหมายของตัวเลข 77 นี้ ก็คือการสื่อถึงปี 1977 ที่เป็นปีแห่งจุดเริ่มต้นในการก่อตั้งแบรนด์ BRABUS นั่นเอง

ไฮไลต์ของ BRABUS P 900 Rocket Edition ยังคงมากับไฮไลต์หลักเรื่องสมรรถนะ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น Super Pick-up ด้วยขุมพลังบล็อกใหญ่แบบ V8 ขนาด 4.5 ลิตร Twin Turbo พร้อมระบบไอเสียที่เปลี่ยนไปใช้ BRABUS High-Performance Exhaust ทำจากสแตนเลส และปลายท่อเป็นวัสดุคาร์บอน ติดตั้งชุดไฟ Rocket Launch Ambience Light โทนสีแดงช่วยเพิ่มความสะดุดตา นอกจากนี้ท่อไอเสียยังได้รับการติดตั้งระบบ Actively Controlled Valves มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สำหรับทำการปรับเปลี่ยนโทนเสียง ซึ่งเลือกได้ระหว่างความเกรี้ยวกราดในโหมด Sport และสุภาพเรียบร้อยในโหมด Coming Home

ส่วนกำลังสูงสุดที่ BRABUS P 900 Rocket Edition พกพามากับตัวก็คือ 900 แรงม้า พร้อมแรงบิดระดับ 1,250 แรงม้า ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถปลิวจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.7 วินาที ส่วนท็อปสปีดสูงสุดที่จำกัดไว้ คือ 280 กม./ชม.

อีกหนึ่งความยอดเยี่ยมก็คือ การปรับเซ็ทช่วงล่างของ BRABUS P 900 Rocket Edition ซึ่งปัจจัยหลักคือ “ลดน้ำหนัก” เพื่อสร้างสมรรถนะการควบคุมที่ดีขึ้น ทำให้ชุด BRABUS RideControl Aluminum Coilover Suspension System จึงถูกนำมาแทนที่ของเดิม พร้อมคุณสมบัติในการปรับความสูงที่ทำให้สูงสุดถึง 45 มม. เพื่อสถียรภาพในการขับขี่จากจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำกว่ารุ่นมาตรฐาน เสริมด้วยความมั่นใจจากยางสมรรถนะสูงแบรนด์ Continental ที่พัฒนาร่วมกับ BRABUS รัดอยู่บนล้อฟอร์จอัลลอยด์ BRABUS Monoblock Z รุ่น Platinum Edition แบบ Aero-Disc ขนาด 24 นิ้ว ที่เสริมความดุดันให้ BRABUS P 900 Rocket Edition ได้อย่างสมบูรณ์แบบสุดๆ เลยทีเดียว

Comments are closed.