Tata Motors Design Studios ทั้งจากในอินเดีย, สหราชอาณาจักร และอิตาลี ได้ร่วมมือกันพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่น่าสนใจ ผ่านเรือนร่างของยนตรกรรม Sub-Compact SUV รุ่นแรก ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติที่ครบเครื่องเพื่อตอบสนองความต้องการ ด้วยพื้นฐานที่ไม่ต่างกับรถอเนกประสงค์ SUV
โดย Tata Punch นั้นถูกสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Agile Light Flexible Advanced (ALFA) Architecture เพื่อยกระดับในเรื่องของการใช้งาน และสมรรถนะการขับขี่อันเป็นจุดเด่น อันประกอบด้วย ชุมพลังเบนซินขนาด 1.2 ลิตร Revotron BS6 ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Dyna-Pro เจนเนอเรชั่นล่าสุด โดยยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องตัวเลขเรี่ยวแรงอย่างเป็นทางการ
แต่มีระบบส่งกำลังให้เลือก 2 รูปแบบ คือ เกียร์อัตโนมัติกึ่งธรรมดา 5 สปีด แบบ Advanced AMT ที่ติดตั้งระบบ Traction Pro มาให้เป็นครั้งแรก ส่วนอีกหนึ่งจะเป็นชุดเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ซึ่งทั้งคู่จะมาพร้อมกับรูปแบบการขับขี่ที่เลือกได้ระหว่าง City และ Eco พร้อม Idle Start Stop ตลอดจนระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกเหนือจากนั้นก็คือความสามารถของ SUV ที่ว่ากันด้วยความสูงใต้ท้องรถที่มากถึง 190 มม. พร้อมมุมปะทะด้านหน้าที่ 20.3 องศา, มุมคร่อมที่ 22.2 องศา และมุมจากที่ 37.6 องศา ตลอดจนลุยน้ำได้สูงถึงราวๆ 370 มม. อีกด้วย
ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานที่มีการเปิดเผยออกมาแล้วนั้น บอกเลยว่า “อัดแน่น” ตัวอย่างเช่น ชุดไฟหน้าแบบ Projector พร้อมชุดไฟ Daytime Running Lights แบบ LED ตลอดจนชุดไฟท้ายแบบ Signature LED และล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว ไปจนถึงราวแร็คหลังคา ที่ลงตัวกับการเลือกใช้โทนสีตัวถังแบบ Dual Tone ตลอดจนเส้นสายงานดีไซน์สไตล์คลาสสิก SUV อาทิ โป่งซุ้มล้อ, กาบบันได หรือประตู
ขณะที่ภายในห้องโดยสารมากับความกว้างขวาง บนอารมณ์สปอร์ตด้วยโทนสีดำ Granite Black ผสานโทนสีเทา Glacier Grey พร้อมด้วยเบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุผ้าในลวดลาย Tri- Arrow ตลอดจนพวงมาลัย และหัวเกียร์หุ้มหนัง แล้วก็ยังครบเครื่องด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายเช่นกัน
ทั้งจากปุ่ม Push Button Start, ปุ่มมัลติฟังค์ชั่นบนพวงมาลัย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบ TFT, หน้าจอแสดงผลความบันเทิงขนาด 7 นิ้ว ที่เชื่อมต่อได้ทั้ง Android Auto และ Apple Carplay ตลอดจนช่องเชื่อมต่อ USB และกล้องมองหลัง ไปจนถึงเสริมด้วยฟังค์ชั่นล้ำๆ กับระบบเชื่อมต่อ iRA Connected Car Technology ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียง ก่อนปิดท้ายด้วยความอเนกประสงค์จากพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 366 ลิตร
